สศก. ติวเข้มทีมจัดเก็บข้อมูล ลุย “เจียไต๋-คูโบต้า” อัปเดตเทคโนโลยีพร้อมปูพรมสำรวจค่าจ้างเครื่องจักรทั่วประเทศ มุ่งเป้าจัดทำข้อมูลต้นทุนการผลิตที่ถูกต้องแม่นยำ

          นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการฯ เรื่อง “การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลต้นทุนการผลิตพืช อัตราจ้างและเครื่องจักรกลการเกษตร” ระหว่างวันที่ 1 – 3 ธันวาคม 2568 ณ โรงแรมพินนาเคิล แกรนด์ จอมเทียน รีสอร์ท จ.ชลบุรี ว่า การอบรมครั้งนี้มุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เข้าใจหลักเกณฑ์การจัดเก็บข้อมูลต้นทุนการผลิตพืช โดยเฉพาะอัตราจ้างและเครื่องจักรกลการเกษตรที่เข้ามาทดแทนแรงงานคนและช่วยลดระยะเวลาการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางภาวะสังคมผู้สูงวัย การจัดเก็บข้อมูลจึงต้องมีความละเอียดแม่นยำ เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและใช้เป็นฐานข้อมูลกำหนดนโยบายพัฒนาภาคเกษตรได้อย่างตรงจุด

          รองเลขาธิการ สศก. กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดเก็บข้อมูลครั้งนี้ว่า ปัจจุบันโครงสร้างต้นทุนการผลิตพืชประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ 1. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต และ 2. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) เช่น ค่าเช่าที่ดิน ค่าเสื่อมเครื่องมือ โดยจุดเน้นสำคัญที่ สศก. ต้องเร่งดำเนินการคือการจัดเก็บข้อมูลในส่วนของต้นทุนผันแปร โดยเฉพาะหมวด “ค่าแรงงาน” ซึ่งประกอบไปด้วยค่าจ้างแรงงานคนและ “ค่าจ้างเครื่องจักรกล” ในกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่การเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว ซึ่งพืชแต่ละชนิดในแต่ละพื้นที่มีบริบทการใช้เครื่องจักรทดแทนแรงงานคนที่แตกต่างกัน ดังนั้น หลังจากนี้ สศก. จะระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและจัดเก็บข้อมูลอัตราค่าบริการเครื่องจักรกล ของสินค้าเกษตรแต่ละชนิดทั่วประเทศ เพื่อนำมาใช้ประกอบการวิเคราะห์และจัดทำข้อมูลต้นทุนการผลิต ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน และสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของเกษตรกรในสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด

          ในการนี้ สศก. ได้นำคณะผู้เข้าอบรมลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ณ ศูนย์บริการเจียไต๋ เอ็กซ์พีเรียนซ์ (Chia Tai Experience Center) อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยได้เรียนรู้แนวคิด โมเดล Service Provider ของเจียไต๋ ซึ่งเป็นรูปแบบบริการที่เข้ามาช่วยแก้โจทย์เรื่องการลดต้นทุนและสร้างอาชีพที่มั่นคงให้เกษตรกรในพื้นที่ และเดินทางศึกษาดูงาน ณ คูโบต้า ฟาร์ม (KUBOTA Farm) อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองกับ สยามคูโบต้า ในการพัฒนาเกษตรกรสู่การเป็น Service Provider มืออาชีพ พร้อมหารือแนวทางการเชื่อมโยงและสนับสนุนข้อมูลเครื่องจักรกลการเกษตรให้แก่ภาครัฐ เพื่อยกระดับฐานข้อมูลให้ครอบคลุมและแม่นยำยิ่งขึ้น

          “การได้มาเห็นนวัตกรรมเครื่องจักรกลของจริง ทำให้เจ้าหน้าที่ สศก. ได้ข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อนำไปปรับปรุงการจัดเก็บตัวเลขต้นทุนการผลิตให้ สะท้อนความเป็นจริง และ ทันต่อสถานการณ์ มากที่สุด ซึ่งเมื่อฐานข้อมูลมีความแม่นยำจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายและมาตรการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้สามารถปรับตัวลดต้นทุน และแข่งขันได้ในยุคปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพ” นางธัญธิตา กล่าว

          รองเลขาธิการ สศก. กล่าวทิ้งท้ายถึงนโยบาย Agricultural Service Provider (ASP) ว่า สศก. ได้ยกร่างระเบียบฯ การขึ้นทะเบียนเกษตรกรเกี่ยวกับการประกอบกิจการในด้านการเกษตร พ.ศ. 2567 ให้ครอบคลุมผู้ให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่ง รมว.เกษตรฯ ได้ลงนามแล้วเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 โดยขณะนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ และกรมหม่อนไหม พร้อมเปิดรับขึ้นทะเบียนเพื่อสร้างฐานข้อมูลผู้ให้บริการที่ครบถ้วน และมีแผนเชื่อมโยงกับ แอปพลิเคชันทางรัฐ เพื่อยกระดับบริการและสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เกษตรกรหรือผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมเป็น ASP สามารถขึ้นทะเบียนได้ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. แอปพลิเคชัน Agri Service Provider 2. เว็บไซต์ https://emachine.doae.go.th และ 3. สมัครด้วยตนเองได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งทั่วประเทศ

***********************************************************

ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์

ข้อมูล : ศูนย์สารสนเทศการเกษตร