ลักษณะและขนาดของคอกโคขุนย่อมแตกต่างกันไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพสถานที่และขนาดของกิจการแต่ก็พอจะสรุปหลักการได้ดังนี้
1.สถานที่
ควรเป็นที่ดอนระบายน้ำได้ดีหรืออาจจะต้องถมพื้นที่ให้สูงกว่าระดับปกติเพื่อไม่ให้น้ำขังในฤดูฝนมีทางให้รถบรรทุกเข้าออกได้เพื่อความสะดวกในการนำโคเข้าขุนและส่งตลาดให้ความยาวของคอกอยู่ทิศตะวันออกถึงตะวันตกวางแผนให้สามารถขยายกิจการได้ในอนาคต
2. ขนาดของคอก
โรงเรือนอาจะประกอบด้วยคอกขังเดี่ยวหลายๆ คอกตามจำนวนโคที่ต้องการขุนแต่ละคอกควรมีขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 4 เมตร หารต้องการขุนแบบรวมหลายตัวในคอกเดียวกันพื้นที่คอกไม่ควรน้อยกว่า 8 ตารางเมตรต่อตัวซึ่งพื้นที่ดังกล่าวควรมีหลังคาอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ก็เพียงพอแล้วส่วนที่เหลือให้เป็นที่โล่งหรือมีร่มไม้ก็ยิ่งดีถ้าพื้นที่ต่อตัวน้อยเกินไปจะมีปัญหาเรื่องพื้นคอกแฉะแม้กระทั่งฤดูแล้งแต่ถ้ามากเกินไปก็จะต้องเสียพื้นที่มากและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการสร้างคอกมากขึ้นถ้าจะสร้างหลังคาคลุมพื้นที่คอกทั้งหมดก็ได้มีข้อดีที่ไม่ทำให้พื้นคอกแฉะในฤดูฟนแต่ก็มีข้อเสียหลายประการคือสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุและโคอาจจะขาดวิตามินดีเพราะไม่มีโอกาสได้รับแสงแดดเลย
3. พื้นคอก
พื้นคอกโคขุนสามารถเทคอนกรีตทั้งหมดได้ก็เป็นการดีเพราะจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องพื้นคอกเป็นโคลนในฤดูฝนได้แต่ต้องการประหยัดก็อาจจะเทคอนกรีตเฉพาะพื้นคอกส่วนที่อยู่ใต้หลังคาก็ได้หากพื้นคอกส่วนใต้หลังคาเป็นดินจะมีปัญหาเรื่องพื้นเป็นโคลนไม่ว่าจะเป็นฤดูแล้งหรือฤดูฝนพื้นคอนกรีตหนา 7 ซม. โดยไม่ต้องผูกเหล็กสามารถรับน้ำหนักโคขุนได้สำหรับฟาร์มขนาดใหญ่ถ้าต้องการให้รถแทรกเตอร์(รถไถ)เข้าไปในคอกได้จำเป็นจะต้องเทคอนกรีตให้หนา 10 ซม. และผูกเหล็กหรือไม้รวกก็ได้ผิวหน้าของพื้นคอนกรีตควรทำให้หยาบโดยใช้ไม้กวาดมือเสือครูดให้เป็นรอยและพื้นคอกควรมีความลาดเอียงจากด้านหน้าลงด้านหลังคอกประมาณ 2-4% หรือทำมุมประมาณ 15 องศากับพื้นราบเพื่อให้น้ำล้างคอกและปัสสาวะไหลลงท้ายคอกได้ง่ายขึ้นท้ายคอกควรมีร่องน้ำกว้างประมาณ 30 ซม. พื้นรางลาดเอียงไปตามแนวที่ต้องการระบายน้ำออกไป
เมื่อพ้นแนวคอกควรทำทางหรือร่องน้ำไห้ไหลไปใช้ในแปลงหญ้าได้ด้วยพื้นคอกส่วนใหญ่ที่เป็นคอนกรีตใต้หลังคาควรจะปูด้วยวัสดุที่ซับความชื้นได้ดีได้แก่ แกลบ,ขี้กบ,ขี้เลื่อย,ฟางหรือซังข้าวโพด เป็นต้น ข้อดีก็คือทำให้โคไม่ลื่นไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดคอกทุกวันอีกทั้งมูลโคพร้อมวัสดุรองพื้นนี้นับว่าเป็นปุ๋ยหมักอย่างดีสำหรับแปลงหญ้าการเปลี่ยนวัสดุรองพื้นคอกควรทำ 1-2 ครั้งต่อเดือนในฤดูฝนและประมาณ 3 เดือนต่อครั้งในฤดูแล้ง,แกลบ 1 ลูกบาศก์เมตรสามารถปูพื้นคอกได้ 10-12 ตารางเมตร(หนาประมาณ 7 ซม.) หรือแกลบ 1 กระสอบป่านหรือแผ่นยางใช้ปูพื้นได้ 2 ตารางเมตร พื้นคอกส่วนที่เป็นพื้นดินหรือส่วนที่อยู่นอกหลังคาไม่จำเป็นต้องมีวัสดุรองพื้นควรทำบ่ากั้นแกลบไม่ให้ไหลจากส่วนใต้หลังคาคอนกรีตไปยังส่วนที่เป็นพื้นดินการปูวัสดุรองพื้นนี้อาจจะไม่จำเป็นเสมอไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคลผู้เลี้ยงโคขุนบางรายนิยมการล้างทำความสะอาดพื้นคอกทุกวันซึ่งได้ผลดีเช่นเดียวกันแต่สิ้นเปลืองแรงงานค่อนข้างมากจากประสบการณ์สรุปว่าในฤดูแล้งควรใช้วิธีปูวัสดุรองพื้นส่วนในฤดูฝนควรใช้วิธีทำความสะอาดคอกทุกวันมีผู้ทดลองใช้ซีเมนต์บล็อคเป็นพื้นคอกโคขุนแทนการเทคอนกรีตปรากฏว่าไม่สามารถทนน้ำหนักโคได้แต่ถ้าเป็นซีเมนต์บล๊อคที่สั่งอัดพิเศษโดยใส่ส่วนผสมปูนซีเมนต์ลงไปมากกว่าปกติจะสามารถใช้ปูเป็นพื้นคอกโคขุนได้
4. หลังคา
สามารถทำด้วยวัสดุต่างๆ กัน เช่น กระเบื้อง,สังกะสี,จากหรือแฝกถ้าหลังคามุงด้วยสังกะสีควรให้ชายล่างหลังคาสูงจากพื้นดินประมาณ 250 ซม.มิฉะนั้นจะทำให้อากาศภายในคอกในฤดูร้อนร้อนมากถ้าหลังคามุงจากหรือแฝกชายล่างของหลังคาควรให้สูงจากพื้นดิน 250 ซม. เช่นกันถ้าต่ำกว่านั้นโคจะกัดกินหลังคาได้
5.เสาคอก
เสาคอกด้านหน้าควรอยู่ในแนวขอบรางอาหารด้านหลังไม่ควรเลยออกมาจากขอบรางทั้งด้านภายในรางและภายนอกรางด้านหลังเพราะจะสะสมสิ่งสกปรกสามารถทำด้วยวัสดุต่างๆ กัน เช่น ไม้เนื้อแข็ง,ไม้ไผ่,ไม้สน,เหล็ก,แป๊ปน้ำหรือคอนกรีต เสาไม้,เสาเหล็กและแป๊ปน้ำมักมีปัญหาเรื่องเสาขาดคอดินต้องแก้ไขโดยการหล่อคอนกรีตหุ้มโคนเสาสูงจากพื้นดินประมาณ 30 ซม. การหุ้มโคนเสามักจะเกิดปัญหาการแตกร้าวของคอนกรีตซึ่งสามารถแก้ได้โดยใช้ท่อปล่องส้วมหรือท่อแอสล่อนเป็นปลอกหุ้มภายนอกอีกชั้นหนึ่ง เสาคอนกรีตเสริมเหล็กมีความคงทนถาวรดีมากแต่มีปัญหาในการกั้นคอกเพราะไม่สามารถตอกตะปูหรือเจาะรูน๊อตได้เสาไม้สนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว มีอายุใช้งานเพียงประมาณ 1 ปีหรือผ่านเพียง 1 ฤดูฝนเท่านั้นโคนเสาระดับพื้นดินก็จะหักเสาไม้ไผ่(ไม้ซอ)มีความคงทนกว่าไม้สนเล็กน้อยการใช้เสาคอนกรีตฝังดินและโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดินเล็กน้อยแต่ต่อด้วยเสาไม้นั้นมักจะเกิดปัญหาโคนเสาบริเวณรอยต่อหักเมื่อถูกแรงกระแทกของโค
6. รั้วกั้นคอก
สามารถทำด้วยวัสดุต่างกัน เช่น ไม้เนื้อแข็ง, ไม้ไผ่, ไม้สนและแป๊ปน้ำ เป็นต้น ไม้สนและไม้ไผ่มีอายุใช้งานได้ประมาณ 1 ปีเศษหรือผ่าน 1 ฤดูฝนเท่านั้นรั้วกั้นคอกรอบนอกควรกั้นอย่างน้อย 4 แนว แนวบนสุดสูงจากพื้นดินอย่างน้อย 150 ซม. ส่วนรั้วที่แบ่งคอกย่อยภายในควรกั้นอย่างน้อย 3 แนวการกั้นรั้วคอกควรให้ไม้หรือแป๊ปน้ำที่ใช้กั้นอยู่ด้านในของเสาเพราะเมื่อถูกแรงกระแทกจากโค เสาจะได้ช่วยรับแรงไว้ตาไม้หรือสิ่งแหลมคมในคอกต้องกำจัดออกให้หมด
7. รางอาหาร
ควรอยู่ด้านหน้าคอกสูงประมาณ 60 ซม. กว้างประมาณ 80-90 ซม. ก่ออิฐฉาบปุนและขัดมันขอบรางด้านนอกเป็นแนวตรงดิ่งไม่เอียงเฉียงออกมาหรือลอยสูงจากพื้นทำให้เกิดมุมอับที่สะสมสิ่งสกปรก ขอบรางด้านหน้าสูงกว่าด้านหลังประมาณ 10-20 ซม. พื้นผิวภายในรางฉาบเรียบโดยด้านล่างของรางทำเป็นแนวโค้งมนไม่มีมุมเจาะรูที่ก้นรางด้านหนึ่งเพื่อให้น้ำระบายออกได้ท้องรางลาดเทเล็กน้อยไปทางด้านที่มีรูระบายน้ำรางอาหารที่แคบเกินไปจะมีปัญหาเรื่องอาหารตกหล่นมากขณะที่โคยืนเคี้ยวอาหารปากโคจะยื่นเลยรางอาหารออกมาการทำรางอาหารเตี้ยมากเกินไปทำให้โคต้องก้มมากในขณะกินอาหารแต่ถ้าสูงเกินไปจะมีปัญหาสำหรับโคขนาดเล็กโคขุนระยะแรกต้องการรางอาหารยาวประมาณ 50 ซม. ต่อโคขุน 1 ตัวและประมาณ 65 ซม.ในระยะปลาย
8. อ่างน้ำ
อ่างน้ำควรวางอยู่ในจุดต่ำสุดของคอกหรืออาจจะวางอยู่นอกคอกแล้วทำช่องให้โคโผล่หัวออกไปดื่มน้ำได้ขนาดของอ่างน้ำสูงประมาณ 60 ซม. กว้าง 80 ซม. ยาว 90 ซม. ก่ออิฐฉาบปูนขัดมันมีรูระบายน้ำด้านล่างหรืออาจควรคำนวณให้สามารถบรรจุน้ำได้พอเพียงสำหรับโคทุกตัวในคอกโค 1 ตัวดื่มน้ำวันละ 20-30 ลิตรหรือโคขุนที่กินหญ้าสดหรือเปลือกสับปะรดเป็นอาหารหยาบต้องการกินน้ำวันละ 5%น้ำหนักตัวส่วนโคขุนที่กินฟางหรือหญ้าแห้งเป็นอาหารหยาบต้องการน้ำประมาณวันละ10%น้ำหนักตัว
9. มุ้งหรือไฟไล่ยุง
ป้องกันการรบกวนและดูดเลือดจากแมลงต่างๆป้องกันแมลงและผีเสื้อตอมตาอันเป็นสาเหตุให้เกิดตาอักเสบและพยาธิในตาลดการหกหล่นของอาหารกล่าวคือถ้ามีแมลงมากโคจะแกว่งศีรษะเพื่อไล่แมลงขณะกินอาหารทำให้อาหารหกหล่นมุ้งที่ใช้เป็นมุ้งไนล่อนสีฟ้าควรเป็นเบอร์ 16 หน้ากว้าง 2.5 เมตร ราคาม้วนละ 350-400 บาท(ยาว 30 เมตร)จะใช้มุ้งตาถี่กว่านี้(เบอร์ 20)ก็ได้แต่ราคาแพงขึ้นและทำให้การระบายอากาศในคอกไม่ดีนักการเย็บมุ้งให้เข้ากับรูปทรงของคอกสามารถเย็บด้วยมือหรือจ้างร้านเย็บผ้าใบก็เป็นการสะดวกในอัตราค่าแรงคิดเป็นม้วนๆละประมาณ 40 บาท
แหล่งที่มา
1. เอกชน: บริษัท เอ็นบี ดิสทริบิวชั่นจำกัด
2. เอกชน: pasusart.com
3. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมปศุสัตว์: กองส่งเสริมและพัมนาการปศุสัตว์
4. มหาวิทยาลัยแม่โจ้: คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม
รูปแบบองค์ความรู้
1. บทความบน website
2.เอกสารdownload: แบบแปลนคอกเลี้ยงโคนม โคเนื้อ
3.เอกสาร download: รูปแบบโรงเรือนโคนม โคเนื้อ
Link
1. รูปแบบโรงเรือนโคนมโคเนื้อ (Link)
2. แบบแปลนคอกโคเนื้อ (Link)
2. ปัจจัยในการทำคอกโคขุน (Link)
4. โรงเรือนเลี้ยงโคเนื้อ (Link)